daisy

ได้ผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองมาใช้ค่ะ แต่ใช้ได้นานประมาณ 2 สัปดาห์เลย(ถ้าใครยังไม่แน่ใจเราแนะนำให้ซื้อขนาดทดลองมาใช้นะจ๊ะ ถ้าชอบค่อยสูดลมหายใจเข้าแล้วซื้อขนาดจริงเลยจ้า)

ก่อนอื่นมาฟังปัญหาผิวของเรานะคะ

1.ผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้นเลย แห้งมากกกกกกก
2.ริ้วรอยค่าาา เป็นช่วงวัยรุ่นระยะสุดท้าย
3.ร่องรอยหลุมสิว

มีเพื่อนๆคนไหนปัญหาผิวใกล้เคียงกันบ้างคะ??

ระยะเวลาที่เริ่มใช้ 20 มีนา - 12 เมษา ประมาณ 3 สัปดาห์ค่ะ

สำหรับเราของยก la mer the concentrate เป็นสกินแคร์ที่ควรน่าลงทุนประจำปีเลยค่ะ ตอนแรกไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะราคาค่อนข้างแรงเลย แต่ที่มาสนใจเพราะเห็นเหล่าบล็อกเกอร์รีวิวเยอะมากกกกกกกก!!!!! คะแนนการรีวิวใน Jeban.com ก็กระแสดีมากกก5555555 เพื่อนๆชาวจีบันคือสายป้ายยาที่แท้ทรู


เป็นสกินแคร์ที่เรียกได้ว่า “กู้ผิวเร่งด่วนของจริง” เรามีแพลนไปงานแต่งเพื่อนช่วงสงกรานต์ค่ะ ต้องสวยออกงานซะหน่อย เลยลงมุนเบาๆกะบสกินแคร์ตัวนี้ เพราะเค้าบอกว่า ช่วยก็หน้าด้วยส่วนผสมจาก Miracle Broth เข้มข้น

แต่ราคาแรงมากกกกกกก เอาค่าาาาาเพื่อความสวยต้องอดทน ถึงราคาจะเจ็บหนักเราก็ยอม

เราลองใช้ la mer the concentrate ไป 2-3 สัปดาห์ เชื่อแล้วค่ะว่าทำไม lamer เป็นที่สุดแห่งสกินแคร์ เราทาเฉพาะก่อนนอนนะคะ ช่วยเรื่องรอยแดงรอยดำ จากสิวเห็นได้ชัด ความชุ่มชื้นของผิวเพิ่มขึ้น ในวันที่ตากแดดจีดๆมาหน้าเราจะไหม้ เราจะทาตัวนี้แล้วนอน ตื่นมาหน้าอิ่มมากกก ผิวได้รับการฟื้นฟูขั้นสุด สิวผดหรือสิวอักเสบที่มีตามข้างแก้ม หรือหน้าผากลดลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

ลักษณะเนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเจลลื่นๆ ทาได้ทั้งเช้าและเย็นค่ะ แต่เราจะทาแค่ตอนก่อนนอนค่ะ เพราะไม่อยากให้ make up เยิ้มระหว่างวัน

กลิ่น : กลิ่นเป็นกลิ่นเฉพาะตัวลาแมร์ค่ะ55555พี่สาวเราก็บอกว่าลาแมร์จะกลิ่นนี้ กลิ่นออกประมาณกลิ่นทะเลๆ สดชื่น ไม่ใช่กลิ่นหอมน้ำหอมพุ้งๆแต่อย่างได้ แค่กลิ่นก็ดูแพงแล้วจ้าา (ราคาก็แพงนะ)

ขนาด/ราคา: 15 ml 6500 บาท
50 ml 22000 บาท
ถ้าเพื่อน jeban อยากลองใช้ก่อนเราแนะนำขนาดทดลองมี 3 ml กับ 5 ml นะคะ ราคาไม่ถึงพันชอบไม่ชอบอย่างไรจะได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ แต่เราชอบจ้า!!!! อยากให้เพื่อนไปลองใช้นะ


ความชุ่มชื้น : ให้ 1000000000/10 จ้า ไม่เวอร์ ไม่อวย la mer the concentrate ควรได้รับมงเรื่องความชุ่มชื้นจ้าาาที่สุดจริงๆเราเป็นคนหน้าแห้งแถมแพ้ง่าย เลิฟฟๆตัวนี้มาก

ริ้วรอย : อันนี้ให้ 8/10 นะคะยังไมาได้ใช้นานขนาดเห็นผลค่ะ แต่ผลลัพธ์ด้านอื่นที่ได้จาก la mer the concentrate ก็ขอเทใจทั้งหมดให้แล้วค่ะ

ความขาว: ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องความขาวนะคะ มีผลช่วยดูแลผิวด้านอื่นๆมากกว่าค่ะ

ผิวแพ้ง่ายใช้ได้หรือไม่ : ใช้ได้จ้าาา เราก็ผิวแพ้ง่ายค่ะเป็นทั้งสิวอักเสบและสิวผดขึ้นประจำใช้แล้วรู้สึกสมดุลของผิวดีขึ้น สิวไม่ค่อยขึ้น

ความแข็งแรงของผิว : อันนี้เป็นเหตุผลที่ทุกคนควรให้ความสนใจเลยค่ะสำหรับคนที่เป็นสิว ผิวขาดความชุ่มชื้นสาเหตุหนึ่งมาจากผิวไม่แข็งแรง ควรเพิ่มความแข็งแรงของผิวด้วย lamer the concentrate เพื่อสุขภาพผิวที่ดีค่ะ

ความคุ้มค่า: สำหรับเราให้ 10/ 10 นะ เรารู้สึกว่า skincare แพงๆน่าลงทุนกว่า make up แพงๆค่ะ เพราะถ้าพื้นผิวเราดีแต่งหน้ายังไงก็สวย

แต่งหน้า: แต่งหน้าติดทนขึ้นค่ะ เพราะหน้าไม่แห้ง ผิวเนียนขึ้นละเอียดขึ้น

บุคคลที่ควรใช้
1.คนผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น
2.คนผิวไม่แข็งแรงเป็นสิวง่าย ทั้งสิวอักเสบและสิวผด
3.คนที่ต้องการกู้หน้าเร่งด่วน
4.คนที่ต้องออกงานทั้งงานราษฎร์ งานหลวง
5.คนที่ต้องการลงทุนกับสกินแคร์ดีๆซักตัว
6.คนที่เพิ่งไปเลเซอร์ผิวมาแล้วผิวบอบบางอ่อนแอ
7.คนที่ตากแดดเยอะๆ ผิวไหม้
8.คนที่กำลังหาของขวัญให้แฟน หรือให้คุณแม่lamer เป็นสกินแคร์ที่ใช้ได้สำหรับทุกคนเลย
9.คนที่กำลังมองหาสิ่งดีๆให้ตัวเองค่าาา

ยังไงหวังว่ารีวิวของเราจะเกิดประโยชน์ช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆนะคะ หากใครอยากได้ไอเทมกู้ผิวเร่งด่วน lamer the concentrate คือสิ่งที่เราแนะนำไม่ทำให้เพื่อนๆผิดหวังแน่นอนค่า

เรื่องควรระวังนิดนุงนะ
1. ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องความขาวจ้าาา
2.ไม่ควรทาตอนกลางวันเรารู้สึกว่าทำให้หน้ามันนะ ช่วยเรื่องแต่งหน้าติดทนก็จริงแต่ ระหว่างวันทำให้หน้ามัน ควรทาแต่ตอนกลางคืนค่ะ
3.สกินแคร์ทุกตัวควรลองทากับคอหรือ ข้อพับแขนก่อนนะคะ ถึงใครว่าไม่แพ้ แต่ปลอดภัยไว้ก่อนเน้ออออ
4.เพื่อนๆคนไหนที่กำลังมีน้อง กำลังจะเป็นคุณแม่ เราแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะว่าสกินแคร์ตัวไหนใช้ได้บ้าง คือเราไม่รู้ข้อมูลจริงๆว่าตัวนี้คนท้องใช้ได้รึเปล่า แต่เพื่อความชัวร์ปลอดภัยทั้งคุณแม่ และเด็กน้อยถามคุณหมอก่อนนะตัวเอง ถ้าคุณหมอบอกว่าใช้ได้ก็ ไปตำเลยจ้าาา ต้องเป็นคุณแม่ที่สวยบริ๊งๆแน่นอนนน><~~

ควบคุมความมัน

5.0

กลิ่น

5.0

ใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย

5.0

ซึมซาบเร็วไม่เหนอะหนะ

5.0

อุดตัน ตกค้าง

5.0

ชุ่มชื้นช่วยให้ผิวยืดหยุ่น

5.0