ราคาที่ usa แค่ 25$ ไม่รวม tax ประมาน 750 กว่าบาทเองแต่ที่ไทยขายตั้ง 1300-1400 ไม่มีทางเลยที่เราจะเสียเงินที่ไทยกลับไปซื้อที่อเมริกาดีกว่า(แต่เราชอบรองพื้นตัวอื่นมากกว่า) เนื้อผลิตภัณฑ์โอเค ควบคุมความมันไม่มากแค่ปรับสีผิวให้เท่ากัน บางเบาเหมาะกับวันสบายๆ
สำหรับเราหนาไปหน่อยถ้าลงด้วยฟองน้ำโอเคมาก เฉดส่วนใหญ่ออกชมพู เวลาโดนเหงื่อแล้วออกมาสวยมาก ควบคุมความมันใช้ได้ กลิ่นน้ำหอมแรงมาก (ส่วนตัวชอบไม่มีปัญหา) แห้งเร็วต้องรีบเกลี่ย เป็นรองพื้นลูกรักเลย
เป็นแป้งที่ดี เทียบปริมาณกับราคาแล้วไม่คุ้มแต่เราซื้อที่ usa ตกอยู่ที่ 29$ ไม่รวม tax ก็โอเค บางเบาเซตรองพื้นไม่ให้เปลี่ยนสี เนียน แป้งเนื้อละเอียดมากดี เรื่องควบคุมความมันไม่มากเท่า loose setting powder จาก laura mericer
โอเคมาก ใช้แปรง kabuki วนๆแล้วปัดเติมระหว่างวัน เป็นธรรมชาติลงบางๆเป็น over all finish powder ได้ (ส่วนตัว)
ตัวนี้เราเอาไว้ใช้ช่วง Fall - winter เลยไปจนถึง spring เพราะ finish ที่ได้ไม่แห้งจนเกินไปเพราะเราอยู่เมืองหนาว ถึงเราจะหน้ามันมากแต่ใช้ในช่วงเวลานี้รอด ส่วนหน้าร้อนต้องพึ่งคนอื่น ไม่ปกปิดอะไรเลย แต่เหมือนผิวดีแต่กำเนิด ไม่รู้ว่าใช้ที่ไทยรอดไหม แต่สำหรับเราขาดไม่ได้เลย หรือถ้ามีรองพื้น full coverage อยากทำให้บางลง เราก็จะเอาตัวนี้ไปผสม เริดที่สุด
คิดว่าเป็นรองพื้นที่ดีอีกตัวนึงให้ finish แบบธรรมชาติที่ไม่ matte ด้านจนไม่เป็นธรรมชาติเกินไป ติดทนนางมีเฉดสีให้เลือกหลายแบบ บางเบาแต่ปกปิด แต่ยังต้องพึ่งคอนซีลอยู่ ข้อเสีย ราคาแพงกว่ารองพื้น high-end ด้วยกันอีกแต่ซื้อจาก Dutyfree ราคา 68$ ถ้าให้ซื้อที่เค้าเต้อร์ไทยนี่ขอคิดดูก่อน 555 โดยรวมดีมากถ้าไม่คิดเรื่องราคาซึ่งสามารถหาคุณสมบัติเหล่านี้ได้ในแบรน์ที่ถูกกว่าด้วย
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม