ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเป็นคนที่ผิวค่อนข้างขาดน้ำนะคะ บริเวณ U Zone หรือ แก้มด้านที่ใกล้กับจมูกก็จะแห้ง ตอนแรกใช้ MAC Prep & Prime BB แบบที่เป็นหลอดค่ะ แล้วรู้สึกว่ามันคุมมันมากซะจนผิวเราค่อนข้างแห้ง ก็เลยเปลี่ยนมาใช้เป็นตัวนี้แทน เพราะมันทำหน้าที่เดียวกันคือเป็น Primer แต่ตัวที่เป็น Balm Compact เนี่ยจะให้ความชุ่มชื้นมากกว่าจึงเหมาะกับคนที่มีพื้นที่ผิวแห้งบนใบหน้าค่ะ หลังจากใช้แล้วก็รู้สึกได้ว่ามันชุ่มชื้นกว่าแบบหลอดจริงๆ ส่วนคุณสมบัติด้านอื่นก็เท่าๆกันค่ะ คือ ไม่เป็นคราบในร่องรูขุมขนระหว่างวัน ติดทนนาน เกลี่ยง่าย ช่วยให้ลงรองพื้นได้เรียบเนียน ใครที่มีผิวค่อนข้างแห้งหรือมีผิวขาดน้ำเพราะอยู่ห้องแอร์นานๆแนะนำตัวนี้ค่ะ
รองพื้นของ Marc Jacobs รุ่นนี้ พูดเลยว่าทำได้ทุกอย่างๆที่โฆษณาไว้จริงๆค่ะ ปกปิดดี แต่ไม่หนักหน้า และ มันสามารถ transform จาก cream เป็น powder finish ที่รู้สึกเบามากแบบไม่น่าเชื่อ แต่ถึง transform ได้จริงก็ยังคงเกลี่ยง่ายนะ ไม่เหมือนรองพื้นบางตัวที่เป็น matte finish แล้วต้องรีบโบกให้เสร็จก่อนมันจะ set ตัวบนผิวหน้าเราน่ะค่ะ คนที่ชอบ matte หรือ semi-matte finish น่าจะชอบตัวนี้ค่ะ ในความเห็นส่วนตัวเรา ถ้าเทียบรุ่นนี้กับรุ่นที่เป็นรองพื้นเนื้อ Gel ของ Marc Jacobs เรารู้สึกว่ารุ่นนี้เกลี่ยง่ายกว่า แต่ look ตอนแต่งหน้าเสร็จมันจะดูเป็นธรรมชาติน้อยกว่าแบบGelนะคะเพราะจะดูแป้งๆกว่า แต่ก็ไม่ ashy (ดูเป็นคุณป้าโบกแป้งหนาเตอะ) หรือ cakey (รองพื้นจับตัวเป็นไอซิ่งปลอมๆพังๆบนหน้า) แน่ๆค่ะ เป็นรองพื้นที่แนะนำนะคะ
เป็น BB ที่มี Coverage หรือประสิทธิภาพการปกปิดที่สูงดีค่ะ ระดับ SPF ก็ดีด้วย แต่เรารู้สึกว่าในแง่ของโทนสีมันค่อนข้างจะ ashy คือค่อนข้างจะออกโทนเทาๆแม้ว่าจะผ่านการลงบนหน้ามาซักพักแล้วก็ตาม ส่วนผสมของ BB นี้มีคุณสมบัติในการคุมมันค่ะ เรามีชั้นใต้ผิวหน้าที่อยู่ในระดับผิวมันแต่ผิวชั้นนอกหรือผิวชั้นบนสุดของใบหน้าขาดน้ำและเป็นขุยเล็กน้อยโดยเฉพาะบริเวณแก้ม พอใช้อันนี้ก็เลยเกิดอาการแห้งเข้าไปอีก ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ แต่ในวันรีบๆหรือวันที่รู้ว่าจะต้องตากแดดตากลมอยู่นอกห้องแอร์นานก็จะหยิบมาใช้ค่ะ เพราะมันติดทน และควบคุมความมันใน zone ใบหน้าที่มันได้ดี
เนื้อเข้มข้นและ creamy สมชื่อค่ะ ถ้ามี range สีที่ถี่มากกว่านี้นิดนึงก็ดีนะ เพราะเราต้องซื้อ 2 อัน คือ Vanilla กับ Custard มาผสมกันถึงจะได้สีที่ใช้ แต่ก็อนุโลมค่ะ ของเค้าดี high coverage ติดทน เกลี่ยง่ายด้วย
เราใช้สี N2 ค่ะ อยากบอกต่อสาวๆว่า ตอนลองสี Foundation ตัวนี้ที่ Counter แนะนำให้ลองทั้ง2ตระกูลสี คือทั้ง C และ N นะคะ เพราะสำหรับสาวไทยหลายคนๆอย่างเพื่อนๆเราใช้ N แล้วสวยกว่า match กับผิวมากกว่า C เพราะสีโทน C มันจะเหลืองมากค่ะ ยกเว้นว่าคุณเป็นคนผิวโทนเหลืองจริงๆๆๆ ตอนแรกเราก็นึกว่าเราจะเหลืองนะคะ เดินไปที่ Counter นี่คือจิ้มสีเองเลยว่าสี C2-C3 แน่ๆเพราะ Foundation อื่นๆของ MAC ที่เราใช้คือสี NC25 แต่พอได้ลองกับผิวหน้าจริงๆปรากฏว่าถ้าเป็น F&B แล้ว ใช้สีโทน N มัน match กับผิวมากกว่า พื้นฐานผิวเรามี Sebum ใต้ผิวในระดับที่จัดว่าเป็นผิวหน้ามัน แต่ผิวชั้นนอกสุดกลับขาดน้ำจนบริเวณแก้มแห้งและเป็นขุย หลังจากที่ได้ลอง Mineralize Foundation , Studio Sculpt Foundation และสุดท้าย Face and Body Foundation เราว่า F&B เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยมาก แล้วก็เหมาะกับคนที่ผิวบริเวณ U Zone ค่อนข้างแห้งหรือค่อนข้างเป็นขุยนะคะ (ถึงจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นเท่า Mineralize ก็เถอะ) เพราะมันจะไม่เกาะขุยๆบนหน้าจนเห็นชัด และก็ไม่ได้ควบคุมความมันซะจน Zone ที่แห้งมันแห้งกว่าเดิมเกินไป ส่วนระดับความ Dewy เนี่ย มันเงานิดๆก็จริง แต่ไม่ได้เงาเยิ้มๆเหมือนใช้ Nymph Aura ของ Etude หรือ Face Oil นะคะ มันจะเงาแบบดูรู้ว่าไม่ได้มันเยิ้มค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่ากำลังดี สรุปคือชอบมากค่ะ ซื้อใช้ซ้ำแน่นอน แนะนำให้ไปลอง+มีไว้ในครอบครองถ้าคุณรักรองพื้นงานผิวดีๆ
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม