สีจะออกไม่ชัดมากเวลาปัดใหม่ๆ แต่ผ่านไปสองสามชั่วโมงแล้ว หน้าจะวาวๆดูมีออร่า (ขนาดนั้นเลย) เหมือนมีสีเรื่อๆขึ้นมาจากผิวเราเอง เป็นธรรมชาติ แต่พอดีอยากลองสีใหม่ที่ชัดเจนและติดทนกว่าเลยหันมาใช้ Nars เดี๋ยวจะเอาตัวนี้มาใช้ปัดเป็นไฮไลต์กับอายแชโดว์ค่ะ ส่วนข้อเสียมีอยู่ว่าบ่ายแก่ๆแล้วสีดูหมอง ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะบลัชหรือแป้ง เลยให้ความพอใจ 3 จาก 5 ก็แล้วกันนะ
ทาหลังจากลงครีมกันแดดเสร็จ หน้าผ่องแบบเป็นธรรมชาติ เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ไม่อุดตันรูขุมขน ไม่ทำให้เป็นสิว แต่ก็ไม่ได้ช่วยปกปิดริ้วรอยจุดด่างดำแต่อย่างใดตามประสาแป้งฝุ่น ถ้าช่วงไหนอยากให้หน้าสบายๆแต่นวลเนียน จะใช้ตัวนี้ ตอนนี้กำลังเก็บตังค์ไว้ซื้อตัวผสมรองพื้นอยู่จ้า ให้คะแนนเฉดสีไม่มาก เพราะที่มีอยู่ก็เข้าไปสีผิวได้ดีแล้ว แต่ให้ไว้กลางๆค่ะ ส่วนแปรงที่ให้มาก็เล็กไปหน่อย เลยใช้พัฟแทน BA บอกให้เทลงกับมือแล้วทาเหมือนแป้งเด็กได้เลย แต่กลัวเปลืองค่ะ ^^
เนื้อนิ่มนวล เขียนแล้วไม่เจ็บหนังตา (ดินสอหมุนของ Kate เขียนแล้วเจ็บตาค่ะ) สีสวย ไม่เลอะเป็นแพนด้า (OP เลอะ) ติดทน ล้างออกง่าย แต่ควรใช้รีมูฟเวอร์นะคะ และชอบมากๆที่ไม่ต้องเหลา เพราะเจอปัญหาเหลาแล้วเนื้อดินสอหักประจำ แท่งหนึ่งใช้ได้เกือบหนึ่งปี เทียบกับราคาไทยประมาณ 800 คุ้มค่าค่ะ รุ่นนี้หมุนขึ้นมาใช้แล้วจะหมุนกลับลงไม่ได้ ต้องค่อยๆหมุนให้โผล่นิดเดียวพอค่ะ
ซื้อมาสองแท่ง ให้แม่หนึ่งแท่ง เป็นรุ่น cremesheen ที่เพิ่งมาใหม่ สี Speed Dial กับ Speak Louder เทียบกับลอรีอัลและคลินิกข์ เนื้อของ MAC จะแน่นกว่า ชัดและทนกว่า รุ่นนี้ใช้แล้วปากไม่แห้ง เพราะเป็นรุ่นชุ่มชื่น (แต่เราลงบาล์มกับกลอสด้วยนะ) ถ้าหมดอาจลองสีอื่นหรือยี่ห้ออื่นก่อนค่ะ
ราคาที่กล่อง 1,100 บาท (เคาน์เตอร์) สีสวย ชัด ใช้แล้วเนื้อบลัชเบลนด์ไปกับผิวหน้าได้ดี ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นปื้นๆ และติดทน (ประมาณ 12 ชั่วโมงยังอยู่) ซึ่งปัจจัยหลังนี่แหละค่ะที่ทำให้ตัดสินใจซื้อในที่สุดและก็ไม่ผิดหวัง
ล้างเสร็จแล้วลองใช้โทนเนอร์เช็ดเพื่อเช็คความสะอาด ยังมีคราบดำค่อนข้างเยอะ หน้าแห้งมากหลังใช้ คิดว่าสำหรับตัวเองคงไม่ค่อยเหมาะ ใช้ได้ครึ่งหลอดก็เลิกค่ะ
ใช้มาหลายปีแล้ว เป็นตัวแรกที่ทาก่อนตัวอื่นๆ และเป็นสกินแคร์พื้นฐานที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีจริงๆค่ะ
มีกลิ่นธรรมชาติมากๆเห็ดๆดินๆ ใช้ครั้งแรกรูสึกร้อนและแสบตาเล็กๆ นึกว่าแพ้ แต่ไม่ใช่ จากนั้นจะอ่นๆทุกครั้งใช้ที่ทา ใช้ไม่นานริ้วรอยลดลง ถุงใต้ตาดีขึ้นมาก รอยคล้ำเลือนลง แต่ด้วยซีรั่มนี้ควรใช้กับอายครีมอีกทีเพื่อให้ความชุ่มชิ้น เลยใช้คู่ไปกับอายครีมคิวเท็นด้วย ราคาสูง แต่ทาทุกวันเช้า-เย็นติดต่อกันจะสองเดือนแล้วยังไม่หมด คิดว่าคุณภาพและปริมาณคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปค่ะ มาดูส่วนผสมกันจ้ะ **เท่าที่อ่านข้างกล่อง ดร. แอนดรูว์เขียนไว้ว่าปัจจัยอย่างความแห้ง ละอองเกสร หรือสารกระตุ้นภูมิแพ้ต่างๆอาจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าไฟจากข้างใน ที่ทำให้ผิวหนังรอบดวงตาอ่อนแอป้อแป้ลงได้ ซีรั่มตัวนี้เลยช่วยพยุงดวงตาให้ดีขึ้น มีส่วนผสมของเห็ด น้ำมันจากส้ม ลาเวนเดอร์ แมนดาริน น้ำมันมะกอก ขมิ้น เกรปฟรุ้ต โรสแมรี สวีตอัลมอนด์ เลดีส์ทิสเซิล และอีกฯลฯ ใช้เป็นประจำ/ต่อเนื่อง และคิดว่าจะซื้อใช้อีก
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม