มันเป็นกลิ่นที่เหมาะกับการไป clubbing ค่ะ ไม่ใช่สายนั่งชิวด้วยนะ ด้วย clubbing จ๋าๆเลย กลิ่นชวนมึนเมาลุ่มหลง วูบวาบในที่มืดมากๆ ตัวน้ำหอมนี่หวาน หวานเหมือนกลิ่นไซรัป แต่มีความมึนเมาแบบกลิ่นค็อกเทล ผสมไอเย็นเข้ามาทำให้เป็นกลิ่นที่เซ็กซี่ปนลึกลับ เหมาะกับสายสาวเท่แต่เซ็กซี่ ลุคของ Zoe Kravitz ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับน้ำหอมตัวนี้คือใช่มากๆ กลิ่นแรงมาก ไม่ควรฉีดกลางวันเป็นอย่างยิ่ง
ยังไม่ใช่สูตรที่ชอบที่สุดจาก Jergens เพราะรู้สึกว่าเข้มข้นเกินที่ชอบไปซักหน่อย บวกกับกลิ่นที่ออกแนวเหมือนพวกครีมกึ่งๆยาๆ แล้วอยากจะบอกว่าตัว ultra healing กับ hand & nail cream ของ jergens คือเนื้อครีมตัวเดียวกันเลย แค่เปลี่ยนแพ็คเกจ
ตอนแรกก็ไม่คิดจะลองแต่ด้วยความที่อยากได้อะไรที่กันแดดได้จัดๆ บวกกับรีวิวของคนที่ใช้ ที่ไปในทิศทางเดียวกันว่ามันดีจริงๆ ทั้งในจีบัน ในเว็บเซโฟร่า ในยูทูป ฯลฯ เราก็เลยลองดู สรุปดีจริงค่ะ มันทำให้หน้าดูผิวสวยขึ้นแบบเป็นธรรมชาติไม่ดูเป็นรองพื้นดูเป็นคนผิวสวยที่มีรอยดำรอยแดงนิดๆหน่อยๆ(แต่ถ้าใครไม่มีรอยพวกนี้อยู่แล้วก็สวยหมดจรดเลย) หน้าไม่มันเพิ่ม หน้าอิ่มฟูขึ้นนิดหน่อยจากเมือกหอยทากที่เขาใส่มาค่อนข้างเยอะ เป็นลำดับต้นๆของส่วนผสม เรื่องกันแดดเนี่ย เราอยากให้มองว่าเป็นตัวเสริมมากกว่า เพราะจะทากันได้ให้ตามSPFที่ระบุ มันต้องทาประมาณ1ข้อนิ้ว ซึ่งจะทำให้กลายเป็นว่าใช้ผลิตภัณฑ์เยอะเกินไป หน้าจะดูหนักแน่นไปด้วยครีมรองพื้นเกินความจำเป็น แนะนำว่าให้ใช้กันแดดปกติแล้วเสริมด้วยตัวนี้จะดีกว่า ฟีลลิ่งเบาสบายไม่หนักหน้า และที่สำคัญมันไม่ไหล แอบมีกลิ่นมะนาวที่เราว่ามันไม่เข้ากันเอาซะเลย แต่แป๊บเดียวก็จางไป ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เรา NC40 ใช้สี TAN ได้แบบพอดีผิวเป๊ะๆ ทาแล้วเนียนกลืนไปกับผิว ตัวนี้เป็น CC สัญชาติอเมริกา แต่ทำจริงในเกาหลี พอพูดมาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่าแพง เพราะราคา1700 บาท ถ้าซื้อของแบรนด์เกาหลีจะหาได้ถูกกว่านี้ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนผิวเข้ม BB,CC เกาหลี หรือแม้แต่ของไทยไม่เคยทำสีเข้มพอสำหรับผิวเรา เพิ่งจะมีตัวนี้แหละที่มีให้ใช้ เราเลยพอใจมาก
ปกติเราจะไม่ใช้ครีมนวด ด้วยความที่เป็นคนที่หัวมันอยู่แล้ว และด้วยความที่ครีมนวดส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกหนักๆลื่นๆกับผม แต่ว่าตัวนี้ได้มาพร้อมกับแชมพูที่ทางจีบันส่งมาให้ลอง เราก็ลองใช้ไปคิดว่าได้มาแล้วยังไงมันก็ต้องลองให้ครบ ในใจก็แอบคิดว่าหัวต้องเหนียวแน่ๆ ยิ่งเป็นสูตรที่ให้ความชุ่มชื่นด้วย ปรากฏว่าเห้ย ไม่เหนียว ผมยังคงพริ้ว รู้สึกเบาศรีษะ เพื่อนๆนึกออกใช่ไหมคะ เพราะมันจะมีแค่ครีมนวดบางตัวกับแชมพูบางรุ่นที่ให้ฟีลลิ่งแบบนี้ได้ กลายเป็นเราชอบมากๆเลย แต่ถามว่าตัวครีมนวดเป็น the must ที่ต้องซื้อรึเปล่า เราก็คิดว่าไม่นะ เพราะตัวแชมพูรุ่นเดียวกันมันทำหน้าที่ได้ดีมากๆอยู่แล้ว แต่ถ้าใครที่ผมหยาบ ผมหนา จะใช้ครีมนวดเพื่อช่วยคลายผมที่พันกันระหว่างสระ ไม่ให้ผมขาด เราก็ว่ามันใช้ได้เวิร์คดีทีเดียว
ได้ผลิตภัณฑ์มาจากจีบัน แต่บอกเลยว่าเรารึวิวตามจริงเสมอ เพราะเราถือว่าเครดิตของเราสำคัญ มาซื้อเราด้วยแชมพู 1 ขวด ไม่ด้ายยยยย แต่ถ้าซื้อด้วยเงินไม่แน่ (ล้อเล่น) - กลิ่นหอมประทับใจ เรื่องกลิ่นของแพนทีนรุ่นนี้ยกให้จริงๆ เพราะมันไม่ใช่กลิ่นเดิมๆสไตล์แบบที่แพนทีนเคยทำๆมา กลิ่นหอมหวานกุหลาบแบบน้ำหอมกุหลาบแพงๆ ไม่ใช่สไตล์กลิ่นกุหลาบแดงแห้งๆฉุนๆ ปนฟรุตตี่หน่อยกลิ่นก้ำกึ่งระหว่างดอกไม้หวานๆและฟรุตตี้ฉ่ำๆแบบพวกลูกพีช กลิ่นหอมจริงๆ - สระแล้วเบาสบายหัว ไม่หนัก ไม่เยิ้ม ผมไม่ลีบเพราะซิลิโคนเกาะหัวเหมือนแพนทีนรุ่นอื่นๆ ผมพริ้ว สางง่าย อเมซิ่งแพนทีนมาก เพราะปกติเราจะไม่ค่อยกล้าซื้อแพนทีน ด้วยในอดีตเจอปสก.ไม่ค่อยดี ขวดนี้คือเบิดเนตรมาก ล้างความทรงจำที่ว่าแขมพูแพนทีนเหนียว หนัก เหนอะ เหมาะกะคนผมแห้งไปในพริบตา สรุปเลยนะคะ ขวดนี้ดีจริงๆทั้งกลิ่นและประสิทธิภาพ
กลิ่นเปรี้ยวๆมะนาว สดชื่นดี ออกแนวอโรม่าสไตล์ฝรั่งๆถ้าชอบกลิ่นแบบนี้ แบรนด์ไทยจ๋าๆหลายแบรนด์มีนำเสนอเหมือนกันในราคาที่น่ารักและเป็นมิตรกว่ามากมาย ตัวเจลอาบน้ำก็ธรรมดาทั่วไปไม่ได้พิเศษ ผลิตภัณฑ์ไม่ได้เลวร้ายนะคะ แต่ว่าสิ่งที่ได้กับราคาที่จ่ายมันไม่ได้ไปด้วยกัน
เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความรู้สึกซับซ้อนในหัวใจเรามาก จะว่าไงดีละ เนื้อของตัวบอดี้โยเกิร์ตคือมันซึมไวมาก แห้งเร็ว ทาเหมือนไม่ได้ทา เป็นฟีลลิ่งที่รู้สึกดีตรงที่ทาแล้วไม่ทิ้งความมัน แต่ในอีกแง่ก็เหมือนว่าไม่ได้ทาอะไรเลยเหมือนกัน เหมือนใช้แล้วไม่เกิดการบำรุงผิวใดๆน่ะค่ะ กลิ่น british rose หอมมาก แต่ไม่ได้หอมติดตัวนานนะคะ จะฟุ้งแค่ตอนที่ทา รวมๆแล้วก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชอบอยู่ เพราะใช้แล้วรู้สึกดี
กลิ่นเปิดเนี่ยสตรอวเบอร์รี่จ๋ามากเลย คล้ายๆน้ำหอมโซนญี่ปุ่นอย่าง Jill Stuart Relax Eau de White Floral นะคะ สตรอวเบอร์รี่ช่วงแรกเนี่ยค่อนข้างสังเคราะห์ๆ ดมแล้วให้ความรู้สึกเหมือนแชมพู สบู่สตรอวเบอร์รี่ อะไรแบบนั้น ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เราว่ากลิ่นมันค่อนข้างทั่วไป ไม่ได้เหมาะกับการเป็นน้ำหอมขวดแพงๆน่ะ แต่ไม่นานพอกลิ่นเปิดจางหาย ก็จะได้กลิ่นพิมเสนแทรกเข้ามาหน่อยๆช่วยเพิ่มความหรูหราและความ'ดูมีอะไร'ให้กลิ่นนี้มากขึ้น เนื้อกลิ่นของมัสก์ วานิลลา เชอร์รี่ก็จะเริ่มโผล่ออกมา กลิ่นช่วงนี้ให้อารมณ์สุขุมขึ้น เป็น skin scent มากขึ้น ขัดกับช่วงแรกมากๆ คือกลายเป็นกลิ่นผิวเซ็กซี่ๆ ที่ยังออกไปทางสาวหวานนะคะ ช่วงนี้แหละที่กลิ่นหอมกำลังดี หอมแบบไม่ดูพยายามมากจนเกินไป สำหรับการฟุ้งกระจายบนผิวเราค่อนข้างต่ำค่ะ เป็นกลิ่นที่ต้องมาดมใกล้ๆ ความติดทนพอประมาณ ได้อยู๋ราวๆ5-6ชั่วโมง ขอบคุณจีบันด้วยนะคะที่ส่งเทสเตอร์มาให้ทดลองพร้อมกับรางวัลรองพื้นบอกเลยว่าน้ำหอมตัวนี้เป็นน้ำหอมที่เรามีแววจะไปถอยไซส์จริงมาใช้ค่ะ
มีความรู้สึกว่าธรรมดานะคะ ไม่ได้พิเศษอะไร ก็ครีมทาผิวทั่วไป เนื้อครีมค่อนข้างข้นและทิ้งความมันไว้บนผิว เหมาะกับใช้เมืองหนาวค่ะ แต่ถ้าใครนอนห้องแอร์ก็ไม่ใช่ปัญหา
มีความรู้สึกว่ารุ่นนี้น่าจะเลิกขายในไทยไปแล้ว เพราะเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีเซลล์ครึ่งราคาของกลิ่นนี้ทั้งไลน์ผลิตภัณฑ์ และไปที่บู๊ธส์มาสองสามที่ก็ไม่เห็นสครับตัวนี้วางอยู่บนชั้นแล้ว แอบเสียดายนิดๆเพราะเป็นสครับตัวแรกที่เคยใช้แล้วรู้สึก ว้าววว มันดีจังเลยกับเอฟเฟ็กต์ที่ได้รับ ชอบพอๆกับตัว break fast สครับจากยี่ห้อเดียวกัน แต่กลิ่นนี้จะจี๊ดจ๊าดซู่ซ่าปลุกให้ตื่นได้ดีกว่าเพราะกลิ่นเลม่อนเปรี้ยวๆมันค่อนข้างแรง ขัดไปขัดมาก็มีมึนๆเหมือนกัน เม็ดสครับใหญ่ เนื้อครีมสครับเหนียวข้น ขัดแล้วผิวนุ่มมาก ดีสุดๆ
ตัวนี้คือ the best ในบรรดาสครับของ soap & glory ทั้งหมดที่มีวางขายอยู่ตอนนี้ ใช้นิดเดียวพอ อย่าควักเยอะ เสียของ ควักมาวนๆบนฝ่ามือแล้วค่อยๆลูบๆวนตามขาแขน ขอย้ำอีกครั้งไม่ต้องใช้เยอะ เพราะ1.มันจะเปลือง 2.มันจะบาดผิว กลิ่นนี้จะหอมเมเปิ้ลไซรัปหวานๆ ขัดไปอยากจะกินแพนเค้กไป ขัดเสร็จผิวก็นุ่มมากๆ เป็นสครับที่1ในใจ ยังไม่เจอตัวไหนที่ดีกว่า ตัวเม็ดสครับ กับตัวออยที่เขาใส่มามันบาลานซ์กัน ไม่มากไปไม่น้อยไป ขัดแล้วรู้สึกว่าได้ขัด แต่ในขณะเดียวกันนุ่มก็ได้ความนุ่มจากออย ไม่ใช่ขัดแล้ว ผิวกร้านหนักกว่าเดิมเพราะเม็ดสครับมันไปบาดผิว
ตัวเนื้อสบู่น่ะเฉยๆ ฟองค่อนข้างน้อย แต่ที่ชอบคือกลิ่น เป็นกลิ่นที่ใช้มาตั้งแต่ม.ปลาย และกลิ่น original pink เป็นกลิ่นเดียวที่เราชอบจากกลิ่นทั้งหมดที่มีให้เลือก มันดมแล้ว มันแบบใช่อ่ะ กลิ่นนี้คือ soap and glory ยี่ห้อที่ชั้นชอบฝังใจมาตั้งแต่ม.5 ใช้ทีไรก็รู้สึกดี แต่เราจะชอบใช้แค่ช่วงหน้าหนาวปลายๆปีแบบนี้นะ ใช้หน้าร้อนทีไร กลิ่นแรงไปทุกที ยิ่งใช้คู่กับโลชั่น คนที่ไม่ชอบจะฉุนจนรำคาญจมูก ราคาซื้อตอนลดเท่านั้น ซื้อในไทยถูกกว่าอังกฤษกับอเมริกาอีกนะ
ใช้ดีนะคะ แต่แพง มันเป็นโปรดักช์ที่ต้องใช้ทั้งร่างกายน่ะ จะมาซื้อขวดละ1500ทุกสองเดือนก็ขอบอกว่าตอนนี้ยังสู้ราคาไม่ไหวค่ะ ไว้เป็นเศรษฐินีก่อนเจอกันแน่ นอกนั้นดีหมดเลย กลิ่นดี เนื้อดี เป็นออยที่ใช้แล้วไม่รู้สึกมัน ไม่รู้สึกเหนอะ
รุ่นนี้ the best ของ Lux เลย ฟองแน่น กลิ่นหอมแบบน้ำหอมราคาแพง ล่างออกง่าย ตัวไม่ลื่น สบู่อาบน้ำของลักซ์รุ่นนี้คือเนื้อดีเกินราคามากๆ
กลิ่นเหมือนแป้งๆมากกว่ากุหลาบค่ะ
กลิ่นหอม โลชั่นทาแล้วฟีลดี ชุ่มชื่นพอประมาณ มีทิ้งความมันไว้นิดหน่อย (สำหรับคนที่ไม่ได้นอนห้องแอร์) แต่ไม่รู้เขาจะเลิกผลิตไหมนะ เพราะมีรุ่นขวดสีชมพูมาแทนที่
กลิ่นเดียวกับไมเซลล่าล้างหน้าสูตรกุหลาบของนีเวียเลยจ้า หอมดี แต่ดมนานๆก็มึนหัวได้ ตัวโลชั่นไม่ได้ประทับใจมาก ก็ธรรมดาทั่วไป รอยแห้งมันก็ไม่สามารถฮีลได้ ทำได้แค่เคลือบๆผิวๆ ช่วยเก็บกักน้ำใต้ผิวไม่ให้ระเหยออกไปหลังจากอาบน้ำเสร็จ ส่วนเรื่องความขาวยังไม่เห็นและก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก ชอบแค่กลิ่นนะ ไม่ค่อยชอบตัวโลชั่นเท่าไหร่
กลิ่นหอมมาก ก็สิ่งชูโรงของโลชั่นรุ่นนี้อะนะ ซึ่งกลิ่นเนี่ย เราดมแล้วคิดว่ามันคล้ายโลชั่น bath and body work กลิ่น velvet sugar ซึ่งเราว่ามันหอมดี เพราะโคตรจะเบื่อกลิ่นครีมดั้งเดิมของนีเวียเลย ส่วนเรื่องการบำรุงผิว คิดว่ายังไม่ค่อยตอบโจทย์ ใช้มาซักพักแล้วไม่ได้รู้สึกว่าผิวดีขึ้นจริง เรื่องผิวนุ่ม เหมือนเป็นเอฟเฟ็กต์หลอกๆจากอะไรบางอย่างที่ผสมมาในโลชั่น พอเลิกทาก็หายนุ่ม ตัวขวดโลชั่น มีความรู้สึกว่านีเวียลดต้นทุน เพราะขวดนิ่มกดแล้วยุบ ไม่แข็งแรงทนทานเหมือนขวดโลชั่นรุ่นก่อนๆ สรุปคือชอบแค่กลิ่น
เป็นลิปสติกราคาแพงที่รู้สึกว่ามันดีสมราคาจริงๆ ใช้อันนี้แล้วไม่อยากกลับไปใช้ลิปถูกๆเลย พิกเมนต์แน่น ให้สีชัดเจน แต่เบาสบายปาก เป็นลิปที่ถ้าอยากให้รางวัลชีวิตจะตรงดิ่งไปซื้ออันนี้
ใช้ดีนะคะ ชอบที่เนื้อมันไม่หนัก ทาแล้วซึมซาบไว เซ็ทตัวไวไม่ทำให้รำคาญ แต่ถามว่ามันมีความมันไหม ก็มีบ้างเล็กน้อย อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ตัวนี้เป็นกันแดดไฮบริด ก็คือว่าสะท้อนรังสียูวีแบบกันแดดฟิสิคอลและก็กรองแสงยูวีแบบเคมีคอล ทำได้สองอย่างในตัวเดียว ปกติกันแดดจะทำได้อย่างใดอย่างนึง กันแดดตัวนี้ถือว่าดีประมาณนึงเลย ข้อเสียเมื่อไปทดสอบกับแผ่นสมาร์ทซันวัดค่ายูวีแล้วเนี่ย พบว่ากันแดดได้จริงประมาณ1ชั่วโมงนะ หลังจากนั้นก็คือต้องทาซ้ำแล้ว มันเป็นกันแดดที่กัน UVA UVB ได้แต่ต้องขยันทาถี่ๆถ้าอยู่กลางแจ้ง กลิ่นก็เหมือนสกินแคร์ทุกอย่างของลอรีอัล
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม