daisy

เป็น Moisturizer ที่เราชอบมากๆเลยค่า ให้ความชุ่มชื้นดีมาก ใช้แล้วผิวสุขภาพดีขึ้น หน้าดูสดใสขึ้น แต่เรื่องริ้วรอยเราไม่ค่อยแน่ใจค่ะ แต่เหมือนจะช่วยให้ร่องแก้มเราตื้นขึ้นค่ะ

เนื่องจากเราเป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำเราเลยทาแค่ตอนกลางคืนนะคะ และมันเหมาะมากๆสำหรับทาตอนเดินทางบนเครื่องบินค่ะโดยเฉพาะถ้าเราต้องอยู่บนเครื่องนานๆ มีทริปนึงที่เราเดินทางไปอเมริกาขาไปเราไม่ได้ใช้ตัวนี้หน้าเราแย่มากเลยค่ะ ผิวแห้งดูขาดน้ำขาดความชุ่มชื้นอย่างแรงสิวขึ้นด้วยค่ะ แต่ขากลับเราทาตัวนี้ (อย่างอื่นใช้เหมือนเดิม) หน้าเราไม่แห้งเลยค่ะปกติมากๆสิวไม่ขึ้นเพิ่มด้วย เราเลยรักตัวนี้มากค่ะ :)

เราได้ขวดเล็กขนาด 30 ml. กับ 15 ml. เป็น GWP มาค่ะ ลองใช้แล้วก็ชอบนะคะ ให้ความชุ่มชื้นดี ที่่สำคัญมันช่วยให้สิวอักเสบๆน้อยลงสิวหายเร็วขึ้นมาก

แต่มีข้อเสียอย่างนึงคือเรารู้สึกผิวเราสากๆขึ้นอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเพราะมันช่วยผลัดเซลล์ผิวแล้วเราใช้ต่อเนื่องไม่นานพอให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วมันผลัดจนหมดรึป่าว (เราใช้ขวด 15 ml. จนหมด และใช้ขวด 30 ml. ไปแล้วประมาณเกือบครึ่งขวดค่ะ)

ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นเราชอบ Estee ตัวนี้มากกว่า SK2 และ Biotherm Life Plankton Essence นะคะ แต่ชอบ Paula's choice healthy skin refreshing toner มากกว่า Estee ค่ะ (แต่ของ Paula ตัวนี้เราต้องทา 3 รอบนะคะถึงจะเห็นผล เพราะตัวโทนเนอร์เนื้อบางเบาแบบน้ำเลยค่ะ)

เสียดายมากเลยเราใช้แล้วแพ้ค่ะสิวขึ้น แต่อ่านรีวิวของต่างประเทศมาหลายคนบอกว่าดีมาก และเราว่าตัวนี้ราคาถือว่าโอเคเลยนะคะถ้าเทียบกับราคาสกินแคร์ lamer ตัวอื่นๆ

เราซื้อมาปีกว่าแล้วค่ะแต่ยังเหลือเกินครึ่งขวดเล็กน้อย เราว่าไม่เหมาะกับผิวมัน ซึมค่อนข้างช้า (เราใช้ครั้งละประมาณ 5 หยดค่ะ) สำหรับเราไม่เห็นผลอะไรเลยค่ะ ไม่รู้สึกอยากหยิบมาใช้อีก ไม่ได้ใช้มาเกิน 6 เดือนแล้วค่ะ

เราใช้แล้วเฉยๆมากค่ะ รอบดวงตาเราค่อนข้างแห้งรู้สึกว่าตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นไม่พอ ริ้วรอยจางๆใต้ตาไม่ลดลงเลย เรื่องรอยคล้ำก็เฉยๆค่ะ

ถ้าเทียบกับ lamer กระปุกเขียว lamer จะเห็นผลเรื่องรอยคล้ำมากกว่านิดนึง แต่ไม่ช่วยเรื่องริ้วรอยเหมือนกันค่ะ

ตัวนี้เป็น My all-time favorite toner ของเราเลยค่ะตอนนี้ซื้อซ้ำเป็นขวดที่ 3 แล้ว เราลองโทนเนอร์โลชั่นน้ำที่หลายคนรีวิวว่าดีมาหลายแบรนด์แล้ว (เช่น Biotherm life plankton essence, SK2, Sulwhasoo,...) แต่ไม่มีตัวไหนทำให้เราประทับใจได้มากเท่าตัวนี้เลย

ตอนแรกที่ใช้เราก็เฉยๆค่ะเพราะเราทารอบเดียว ปกติเราเทใส่มือแล้วก็ทาทั่วหน้านะคะไม่ใช้สำลี

แต่หลังจากที่เราเดินทางแล้วผิวขาดน้ำมากเราตบโทนเนอร์ตัวนี้ซ้ำ 3 รอบ ใช้มือประคบๆที่หน้าเราจะรู้สึกอุ่นๆที่ผิวนะคะ แต่หลังจากที่ใช้วิธีนี้มาประมาณ 1 อาทิตย์สังเกตได้ว่าผิวดูอิ่มดูสุขภาพดีขึ้นรูขุมขนดูเล็กลงหน้าดูไบรท์ขึ้นและดูหน้าเด็กลงด้วยค่ะ สรุปคือเลิฟมากๆค่า

เราใช้หลังจากลง skincare เลยค่ะ ไม่ควบคุมความมัน ไม่ปกปิดซึ่งก็ปกติของแป้งฝุ่นนะ แต่ชอบที่ชิมเมอร์ละเอียดดีค่ะ

ส่วนแพ็คเกจกระปุกใหญ่และหนักไม่เหมาะสำหรับพกพาค่ะ

ได้กระปุกเล็กเป็น GWP มาค่ะใช้ได้ประมาณเดือนนึงเลย ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้ ความชุ่มชื้นโอเค แต่ริ้วรอยจางๆใต้ตาไม่ลดลงเลย

ใช้แล้วรู้สึกหน้ากระจ่างใสขึ้นนิดนึงค่ะ ให้ความชุ่มชื้นดีผิวดูอิ่มขึ้น ราคาไม่แพงด้วย ชอบค่ะ

ซื้อสินค้าตัวอื่นแล้วได้ขนาดทดลองมาค่ะ ให้ความชุ่มชื้นดี รอยคล้ำจางลงนิดหน่อย เรามีริ้วรอยจางๆแต่ใช้แล้วไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเท่าไหร่ เราชอบ eye cream ของไลน์ Gingseng มากกว่าค่ะ

ตัวนี้แม่ใช้ค่ะ เราไม่ได้ใช้เอง แม่บอกว่าให้ความชุ่มชื้นดี ช่วงแรกๆที่ใช้รู้สึกว่าริ้วรอยดูจางลงพอสมควรเลย แต่ตอนหลังๆใช้แล้วเฉยๆค่ะไม่ค่อยช่วยเรื่องริ้วรอย เราคิดเอาเองว่าน่าจะเป็นเพราะมันอยู่ในแพ็คเกจแบบกระปุกเลยทำให้ครีมเสื่อมสภาพเร็วค่ะ ช่วงหลังๆเลยใช้ไม่ได้ผล

เราเห็นตัวนี้ติด Bestseller เว็บ sephora อเมริกา ก็เลยขอขนาดทดลองมาลองค่ะ ได้มา 2 ซองก็ใช้ได้นานพอสมควรเหมือนกันนะคะ ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นดี รอยคล้ำดูจางลงนิดนึง ส่วนริ้วรอยเราว่าไม่ค่อยช่วยนะ แต่ว่าคงไม่ซื้อขนาดจริงค่ะ เพราะเราไม่ชอบแพ็คเกจแบบกระปุกอ่ะ รู้สึกว่ามันสกปรกง่ายและทำให้ประสิทธิภาพของครีมเสื่อมเร็วค่ะ

ตัวนี้เราเห็นหลายคนรีวิวในเว็บ sephora, nordstrom ว่าดีมาก และ fluerdeforce ก็บอกว่าชอบตัวนี้มาก ชอบพอๆกับ chanel vitalumiere aqua นางไม่แน่ใจว่าชอบ shiseido มากกว่ารึป่าวด้วย เพราะ shiseido ติดทนกว่า ไม่หนักหน้าแต่ปกปิดดี

แม้ว่าเราแพ้ซิลิโคน แพ้รองพื้นมาหลายแบรนด์แล้ว แต่เห็นรีวิวอย่างนี้เลยอยากลองมากๆ ห้ามใจไม่ไหว ฮ่าๆ สุดท้ายก็ซื้อมาลองค่ะ แต่ก็เป็นไปตามคาดเราใช้แล้วสิวขึ้น T_T แล้วรู้สึกว่ามันเน้นรูขุมขนให้ชัดขึ้นนิดนึงค่ะ

นอกจากข้อเสียเรื่องนี้เรื่องอื่นมันก็ดีอย่างที่หลายคนรีวิวไว้นะคะ เกลี่ยง่าย (แต่ต้องใช้ทีละน้อยๆ) ปกปิดดี ไม่หนักหน้า ติดทนมาก ควบคุมความมันได้ดีเราเลยคิดว่าไม่เหมาะกับคนผิวแห้งค่ะ

เป็นโลชั่นน้ำที่เราชอบมากค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นน้ำกึ่งเจลนิดๆ ซึมซาบเร็ว ให้ความชุ่มชื้นดีมาก คือเราเป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำเพราะใช้ยารักษาสิว หลังล้างหน้าเสร็จแค่แป๊บเดียวหน้าก็จะแห้งๆตึงๆแล้ว แต่พอใช้ตัวนี้แค่ประมาณ 1-2 วันรู้สึกว่าหน้าตึงช้ากว่าและน้อยกว่าก่อนใช้ค่ะ ข้อเสียมีอยู่นิดนึงคือว่ากลิ่นน้ำหอมแรงมากเลยอ่ะ บางคนอาจแพ้น้ำหอมได้นะ และก็หาซื้อยากค่ะเพราะยังไม่มีจำหน่ายในไทย

ถ้าเปรียบเทียบกับ Sulwhasoo essential balancing water เราชอบ History of whoo ตัวนี้มากกว่านะ เพราะเนื้อเบากว่าซึมเร็วกว่าแต่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่าและราคาถูกกว่าด้วย :)

เราใช้สี Honey ค่ะ ให้ความชุ่มชื้นดี ติดทนมากๆสำหรับเรา ทาไปซักพักสีจะออกชมพูแดงมากขึ้น ปกติเราเลยทาทับด้วยสีชมพูนู้ดของ Lavshuca จะได้สีชมพูกำลังดีประมาณว่า My lips but better ค่ะ

ชอบมากค่ะ ติดทนมากๆ เม็ดสีชัดมากๆ สี stellar เวลาใช้เราแตะแค่จุดเดียวแล้วเกลี่ยก็พอแล้วค่ะ กำลังคิดว่าจะซื้อสีอื่นที่ soft กว่านี้มาลองบ้าง ^^

ให้ความชุ่มชื้นดีค่ะ เราชอบนะ แต่ราคาแพงเกินไปค่ะ shea butter แบรนด์อื่นเช่นของ Now foods ถูกกว่านี้มาก

ให้ความชุ่มชื้นดีกว่ารุ่นธรรมดาค่ะ เราว่าดีพอๆกับ burt's bees with mango butter เลยแหละ และในไทยราคาก็ถูกกว่า burt's bees มากทีเดียว แต่ burt's bees กลิ่นหอมกว่านะ

เราว่ารุ่นธรรมดาให้ความชุ่มชื้นดีกว่าค่ะ เราไม่ค่อยชอบตัวนี้เท่าไหร่

เราชอบตัว Mango butter ค่ะ กลิ่นหอมดี ให้ความชุ่มชื้นดีแต่ไม่ถึงกับดีมากจนไม่ต้องเติมระหว่างวันอีกเลยนะคะ