daisy

ตอนอยู่ไทยใช้ดีค่ะ กันแดดพอควร ไม่ดำไม่ด่าง
ไม่เหนียวตัวง่าย(ควรทาทันทีหลังอาบน้ำไม่งั้นจะไม่ซึมและเป็นเมือกๆระหว่างวัน)
เสียอย่างเดียวไม่ค่อยชอบกลิ่นเลมอน เหมือนซันไลท์เลย

*มาอังกฤษแล้วใช้ไม่ดีค่ะเพราะบางเบาเกิน -_-' เสียดายขวดใย๊ใหญ่

อยู่ที่ไทยปัดหลังลงรองพื้นหรือไพรเมอร์ ถ้าเดี่ยวๆจะไม่ติดทน
อยู่อังกฤษใช้เดี่ยวๆดีมากค่ะ

ถูกและดีค่ะ เติมได้บ่อยไม่กลัวเปลือง
เสียอย่างเดียวที่อังกฤษแพงมาก(กลับไทยไปซื้อที่วัตสัน)
*หน้าร้อนเมืองไทยไม่ควรพกออกกลางแดดค่ะ ละลายมาแล้ว เสียดาย..*

ถูกและมีสีให้เลือกเยอะ เหมาะกับการลองสีแปลกๆที่ไม่ค่อยได้ใช้
กลิ่นเคมีมากๆ ไม่บำรุง ติดไม่ทน ไม่ค่อยเหมาะจะใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ

ถูกและดีค่ะ เติมได้บ่อยไม่กลัวเปลือง
เสียอย่างเดียวที่อังกฤษแพงมาก(กลับไทยไปซื้อที่วัตสัน)

ถูกและดีค่ะ เติมได้บ่อยไม่กลัวเปลือง
เสียอย่างเดียวที่อังกฤษแพงมาก (กลับไทยไปเหมา1แถม1ในวัตสัน)

ดีทุกประการค่ะ
เสียอย่างเดียว ตอนกลับไปไทยใช้หมดแล้วหาซื้อไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนลุคชั่วคราวเป็นแบบซอฟท์ๆไม่กรีดตา
(เวอร์ชั่นที่ขายที่ไทยนิ่มเกินค่ะ)

ลองมาหลายยี่ห้อเกือบทั่วโลกแล้วต้องกลับมาใช้อันนี้ค่ะ
เสียอย่างเดียวต้องกลับไปซื้อที่ไทย(เมดอินไชน่า)
เมเบลลีนที่นี่ทำในยุโรปกับอเมริกา คุณภาพแย่มาก

ตอนอยู่ไทยใช้เก็บรายละเอียดหลังรองพื้น(เรฟล่อน)ต้องลงแป้งฝุ่นค่ะ ถ้าใช้เดี่ยวๆแบบไม่รองพื้นจะไม่ติดหน้า ต้องมีไพรเมอร์ช่วย

อยู่อังกฤษใช้เดี่ยวๆติดทั้งวันค่ะ

รวมๆใช้ดีค่ะ
ตอนอยู่ไทยต้องใช้ไพรเมอร์กับแป้งฝุ่นด้วย ระหว่างวันใช้ฟิล์มซับ
อยู่อังกฤษใช้เดี่ยวค่ะ หน้าร้อนทิชชู่ซับก็พอ

ใช้ตอนอยู่อังกฤษสลับกับเรฟล่อนเฉพาะวันที่ไม่อยากแต่งเต็มที่ค่ะ
ต้องซับมันออกหลังแต่งเสร็จ และลงแป้งฝุ่นนิดๆ-หน้าหนาวไม่ต้อง

ไม่เหมาะกับเมืองไทยค่ะลองแล้ว ละลายเป็นเมือกเมื่อออกจากห้องแอร์
แนะนำว่าควรใช้ในที่อุณภูมิต่ำกว่า 25 องศาเท่านั้น (หน้าร้อนอังกฤษก็ละลายนะ)

ช่วงอยู่ไทยใช้สูตร combination/oily ตบแป้งบ้างไม่ตบบ้างก็ติดทน ใช้ฟิล์มซับมันก็พอแล้ว
ตอนนี้อยู่อังกฤษผสม Normal/Dry ใช้เดี่ยวๆช่วงแก้ม ไม่ต้องตบแป้ง แค่ซับมันออกนิดๆตอนแต่งเสร็จค่ะ