เราใช้สารพัดงานมากอันนี้ เพราะมันเล็กดีค่ะ บัฟรองพื้นเฉพาะจุด ส่วนใหญ่จะใช้กับพวกครีมบลัช กะเฉดดิ้ง เพราะมันทำให้เนื้อเนียนไปกับผิว กับบลัชออนที่พิกเม้นจัดๆ แบบ nars, jill stuart โดยเฉพาะอันหลังนี่ work มาก
สำหรับเราบลัชไม่ค่อยต่างกันมาก แล้วแต่สีที่ชอบกับวิ้งๆชิมเมอร ของแมคก็ได้ ดีตามมาตรฐาน ชิมเมอรเล็กดี ติดทน แต่ไม่มาก ประมาณ 5-6 ชม บางสีก็ไม่ค่อยทนและไม่กลืนไปกับผิวก็มีค่ะ
สำหรับอันนี้เฉยๆนะ เราชอบแป้งฝุ่นมากกว่า ปกติอยู่ต่างประเทศ อากาศแห้ง ใช้แล้วดูโกลวดี แต่กลับมาเมืองไทยอากาศร้อน ทีโชนนี่เอาไม่ค่อยอยู่ค่ะ
ล้างแปรงะได้สะอาดดี แล้วก็ถนอมแปรงด้วย ถ้ามีหัวเสปรยมาให้จะเริ่ดมาก เราใช้สเปรย์ใช้ผ้าที่หนาๆ(อย่าเอาผ้าที่เป็นขุยนะคะ) แล้วเอาแปรงวนๆ ถ้าแปรงรองพื้น ซึ่งเปื้อนมากกว่า จะเทใส่ถ้วย น้ำจิ้มแล้วเอาแปรงจุ่มวนๆ บีบน้สออก แล้วเอาผ้ามาเช็ดวนๆ จนสะอาดค่ะ เราลองแชมพูแล้วก็ไม่เวิรคค่ะ รู้สึกว่ามันล้างแล้วขนแปรงเห้งไป
เราว่าสีมันออกพีชมากกว่า ทำให้ใช้ง่ายกว่า ของยี่ห้ออื่น แต่ก็ทำให้ปะสิทธิภาพในการปิดรอยช้ำน้อยลง ถ้าชำ้ไม่มาก เราว่าก็ใช้ได้ค่ะ ถ้าช้ำมาก และม่วงมากต้องใช้ corrector ที่สีส้มไปเลย มันจะ neutralize สีม่วงได้ดีกว่า เน้ือตัวนี้ใช้ได้ค่ะ เหมือนคอนซีลเลอร์ของ BB อ่ะ หนักน้อยกว่าเมื่อก่อน ส่วนตกร่องมั้ย ถ้าใต้ตาแห้งมาก ก็แตกค่ะ คือถ้ามันชุ่มชื้นไป มันก็จะย้อยอ่ะค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กัสภาพผิว แนะนำว่าให้ไปลอง และอย่าเพิ่งซื้อ ลองเดินเล่นดูก่อน ถ้ามีเวลาก็ลองทั้งวันค่ะ แล้วถ้าชอบค่อยกลับไปซื้อ
ใช้มานานมากกกก เราไม่ค่อยใช้gloss เพราะผมยาว แล้วที่เราอยู่ลมแรง ลมพัดที ผมไปโดน ปากลากยาวเป็นทาง ไม่มีวิธีแก้ เนื้อเหนียว แต่ไม่ค่อยทน สีสวยอยู่ได้ประมาณ 2-3 ชม เอาไว้ใช้เฉพาะไปงานค่ะ
เราใช้สี blushed ค่ะ เป็นบลัชออนอันแรกที่ซื้อเลย เป็นบลัชพื้นฐานเลยค่ะ โทนสีเข้ากับสีผิวใช้แล้วเนียนเป็นธรรมชาติดี ถ้าเทียบเม็ดสีเราว่าของ Nars จะเข้มกว่า เม็ดสีเยอะกว่า แต่ของ Bobbi จะมี texture ที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ มันจะเนียนๆแบบ matt เราชอบเป็นการส่วนตัวเลยลำเอียง :P
เนียน เกลี่ยดีๆก็ปกปิดได้ดีทีเดียวค่ะ ใช้ง่าย ทาแป้งฝุ่นทับนี่ สวยใสได้โล่เลยค่ะ มี SPF ด้วย มีหลายเฉดสีเราชอบแต่งหน้าสไตล์ Bobbi Brown เป็นการส่วนตัว แต่หลังๆได้มีลองยี่ห้อจากเอเชีย อย่าง Lunasol กับ shiseido แล้วรู้สึกว่า ของ BB หนักหน้าไปเลย ทั้งๆที่เมื่อก่อนรู้สึกว่าตัวนี้ทาแล้วใสๆสบายแล้วนะ ข้อแนะนำเวลาซื้อรองพื้นก็ไปลองค่ะ แล้วก็ลองเดินเล่นอยู่ในนั้นสักพักค่ะ ดูว่ามันเซทตัวเข้ากับหน้า เพราะบางที สีเปลี่ยนเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนด้วย ดูว่าเยิ้มมั้ย มันมั้ย ติดทนแค่ไหน ลองจนถูกใจค่ะ
เกลี่ยง่าย เราเปลี่ยนจากแบบน้ำมาเป็นแบบนี้ เพราะว่าพกง่ายค่ะ แต่ไม่ค่อยชอบใช้พัฟเกลี่ยค่ะ รู้สึกว่ามันสกปรกง่าย ติดว่ามันไปหน่อย ถ้าอยู่ข้างนอก ถ้าอากาศเย็นหรือว่าอยู่ในห้องแอร์นี่ ชุ่มชื้นกำลังดี มหลายเฉดสีให้เลือก ปกปิดได้เนียนดีกว่าแบบน้ำ แต่จะหนักหน้ากว่า
เราไม่ค่อยมีปัญหารอบดวงตาค่ะ ไม่ค่อยมีรอยคล้ำไม่บวม แต่ตอนที่ลองใช้ ผิวใต้ตาเนีบยเด้งขึ้น เนื้อครีมกลิ่นหอม ตอนทาสดชื่นดีค่ะ
เราเคยใช้ skincare ชุดทดลอง ที่มีสี่ตัวในเซท แล้วรุ้สึกว่าหน้าดีขึ้นมากค่ะ สิวก็ลดลงด้วย ช่วงนั้นไม่ได้ใช้ยาอะไรทาเพิ่มเลย หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ชิเซโด้ตลอดเลยค่ะ แต่ทุกตัวของชิเซโด้จะมันไปนิดสำหรับสาวหน้ามันอย่างเราแต่พอหน้าเริ่มดีขึ้น ปรับสมดุลได้ก็จะมันน้อยลงไปเองค่ะ เป็นทางเลือกนะคะ สำหรับคนที่เคยมีปัญหาสิว จุกจิกกวนใจอย่างเรา ทำอย่างไรก็ไมหาย ลองมาเกือบทุกอย่างแล้วค่ะ(ยกเว้นเลเซอร) หน้าบางไปเยอะ เราเลยหยุด แล้วหันมาตั้งใจบำรุงผิวให้ผิวแข็งแรง แทน
ที่เราใช้เป็นEmulsion แต่ก็ยังมันไปนิดค่ะ ตื่นมาหน้าเยิ้ม โดยเฉพาะตอนนี้หน้าร้อน แต่ช่วยให้หน้าใสเด้งดีค่ะ ช่วงที่อากาศเยนก็พอดีๆค่ะ ไม่มันเกิน
ไม่คุมมัน ไม่ค่อยกระชับ แต่เน้นบำรุงผิวกระจ่างใสมากกว่าค่ะ ใช้แล้วหน้าใสขึ้นนะคะ ทำให้ผิวหน้าในส่วนที่ไม่มีปัญหาละเอียดขึ้นค่ะ ใสเด้งๆ
ตัวนี้นี่ แจ่มที่สุดในบรรดาโฟมทั้งหลายที่เคยลองมาค่ะ เทียบกับไลน์อื่นๆของชิเซโด้ด้วย เราใช้สลับไปมากับ skincare แต่รู้สึกว่าหน้าหมองลงไปเลยช่วงที่ใช้ skincare เคล็ดลับคือต้องตีฟองก่อนใช้ค่ะ ใช้มือนี่แหละค่ะ ห่อๆมือทั้งสองข้าง จะรู้สึกว่าโฟมหนาและแน่นขึ้นละเอียดขึ้น แล้วเอาโฟมนุ่มๆนั่นแหละค่ะถูเบาๆ หน้าสะอาดหมดจดไม่แห้งตึงสำหรับผิวมันอย่างเรา
รีวิวแทนคุณแม่ค่ะ เราหน้ามันใช้แล้วอุดตันสิวเห่อ เลยเอาไปให้คุณแม่ใช้ ปลื้มมากมาย ใช้แล้วหน้าชุ่มชื้นขึ้นริ้วรอยก็ลดลง เลยโดนแม่เหน็บมาว่า ใช้เครื่องสำอาค์ไม่เหมาะกะอายุและรายได้ ก็งี้แหละ ตอนนี้คุณแม่ก็ใช้มาเรื่อยๆค่ะ
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม