daisy

โดนตกจากกลิ่นหอมโชยออกมาจากกล่องพัสดุที่สั่งออนไลน์ของดิออร์ค่ะ ทำให้รู้สึกกลิ่นถูกจริตกับฉัน ตัดสินใจสั่งซื้อ

วันที่ไปทำงาน ฉีด 1 สเปรย์ พอค่ะ ระวังเพื่อนร่วมงานจะรู้สึกฉุน เพราะกลิ่นหอมฉุนมาก กลิ่นฉุนชัดมาก 5555 แต่เป็นกลิ่นหอมแพงจริงๆ นะคะ

ต้องไปทดลองกลิ่นที่เคาน์เตอร์ก่อนตัดสินใจ อย่า Blind buy ! กลิ่นท็อปโน๊ต คือ woody 🪵 ใช้ได้ทั้งชายทั้งหญิงค่ะ

ซื้อแป้งตลับนี้มาพร้อมกับพัฟฟ์และแปรง ซึ่งทำหน้าที่ไม่เหมือนกัน คือ พัฟฟ์ ให้ความหนักในการทาแป้ง และ แปรง ให้ความบางเบาในการทาแป้ง แล้วแต่ความต้องการนะคะ

เนื้อแป้งออกจะขาวๆ ไม่โปร่งแสง ไม่มีชิมเมอร์ คล้ายๆ กับแป้งอัดแข็งทั่วไปที่ไม่โปร่งแสง มีกลิ่นหอมไม่ฉุนเกินไป หอมแบบหอมละมุนมากๆ ทาแป้งหน้าจะดูไบรท์ขึ้น ขจัดหน้าโทรม สามารถทัชอัพในช่วงระหว่างวันได้ด้วย ไม่เป็นคราบนะคะ โอเค แป้งดีค่ะ !

เนื้อรองพื้นชนิดกึ่งครีมกึ่งเหลว เกลี่ยด้วยมือก็ง่ายอยู่ ฟิชนิชดูไม่แห้งแกร๊ก กึ่งแมทกึ่งฉ่ำ ไม่หนาเตอะเกินไป รู้สึกเบาสบาย ไม่ค่อยควบคุมความมัน ในระหว่างวันไม่มีการตกร่องรูขุมขนและไม่เป็นคราบใดเลยค่ะ

เนื้อรองพื้นชนิดเหลว เกลี่ยง่ายดายมาก ไม่แห้ง ดูชุ่มชื่นฉ่ำ ไม่ตกร่องรูขุมขน ขนาดไม่ทาไพร์เมอร์เลยนะคะ มีหลุดบ้างใรช่วงระหว่างวัน เลิฟ เลิฟ เลิฟ เป็นรองพื้นขวดแรกที่ใช้จนใกล้จะหมดแล้ว ^^

เกลี่ยง่าย สบายผิวมาก มีชิมเมอร์เล็กๆ ละเอียด ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ปกปิดค่ะ เฉดสี 2W1 ไม่วอกไม่ติดชมพู เหมาะกับใช้ในวันสบายๆ แต่ในวันที่ขี้เกียจลงรองพื้น ก็สามารถใช้แป้งผสมรองพื้นได้ ไม่โบ๊ะ ไม่เป็นคราบเลยค่ะ ดีงามมากๆ

สั่งซื้อทางออนไลน์ และเลือกเฉดสีก็เลือกตามคุณโมเมนะคะ เพราะสีผิวเหมือนกันค่ะ

ไม่เคยใช้รุ่นเก่า ที่กดซื้อเพราะเห็นว่าเป็นเนื้อรองพื้นเบากว่ารุ่นเก่า และขวนสวยก็เลยซื้อฮะ

เนื้อรองพื้นเหลวและหนืดตอนปาดลงบนใบหน้า เนื้อรองพื้นดูเฉดสีเหลืองจริง แต่ลงเสร็จ หน้าดูติดชมพูออกมาเลยแหะ ไม่ปลื้มอ้ะ หน้าดูแห้งกรัก ก็รองพื้นเนื้อแมตต์ไงล่ะ 55 แต่ไม่แมตต์เกินไปนะคะ

พอกลับมาถึงบ้าน เช็คสภาพใบหน้า โอ้โห เป็นคราบตรงกรามเลย เกิดจากเสียดสีจากหน้ากากอนามัย และก็ตกร่องรูขุมขนก็ด้วย ฉันเป็นคนที่มีรูขุมขนกว้างสุดๆ จ้า

สรุป คือ เฉยๆ ไม่ว้าวค่ะ แต่ไงยังใช้ต่อ เสียดายของ 555 จะหาทางแก้ไขอยู่ค่ะ

โดนคนป้ายยาหลายคน ใจไม่ไหวก็เลยตัดสินใจลองเองดีกว่า ไม่ว้าวเลย แต่ก็สามารถใช้ในวันแต่งหน้าเบาๆ ได้

ข้อเสีย คือ ขนาดเบอร์ 02 ยังอมชมพูอยู่เลย อยากได้เฉดสีโทนเหลืองจังเลยค่ะ

โดยรวมแล้ว เฉยๆ ค่ะ

ตอนปาด ตะลึงเลย เนื้อแป้งคือหนาและลื่นสมูท !!! ปาดลื่นง่ายมาก ไม่หนักหนาเตอะแบบแป้งผสมรองพื้นทั่วไปน่ะ โอ้พระเจ้า เนื้อแป้งอะไรลื่นสมูทจริงๆ แต่มีเป็นคราบตกร่องรูขุมขน ฉันเป็นคนที่มีรูขุมขนกว้างสุดๆ เลยจ้า ไม่รู้ทำไม หาทางแก้ไขอยู่ล่ะ และสามารถปาดแป้งในระหว่างวันได้ด้วย ไม่เป็นคราบเลยค่ะ

ส่วนตัวชอบ Kanebo มากกว่านะคะ

ซื้อเพราะอินกลิ่นคาราเมลมาจากน้ำหอม Viva La Juicy Couture EDP ค่ะ ตอนฉีดแรกก็จะงงๆหน่อย เพราะอยู่ในที่ร้อนๆ จะหากลิ่นคาราเมลไม่เจอ พออยู่ในห้องแอร์ได้กลิ่นหอมหวานจากคาราเมลจริง!!! หอมมากกกกกก ไม่กลิ่นขนมจ๋าเกินไปนะคะ กลิ่นเซ็กซีน่าเย้ายวนเหลือเกิน 5555 หลงรักกลิ่นนาง

The Only One EDP คือ พี่สาว
Viva La Juicy Couture EDP คือ น้องสาว

เป็นแป้งอัดแข็ง มีชิมเมอร์ละเอียดมาก ใช้แปรงปัด หน้าผ่อง ดูลูกคุณเลย 555555 ไม่เน้นรูขุมขน ผิวสวยมาก ชอบมากเลย เอาไว้พกทัชอัพระหว่างวัน ปัดในระหว่างวันได้ไม่เป็นคราบค่ะ ดีมากกก!

น้ำหอมตัวนี้ ตัดสินใจซื้อไม่ถึง 3 นาทีค่ะ ซื้อเลยซื้อ! เพราะพูดใจกลิ่นเปิดแรกมากกกก พอฉีดแล้ว กลายเป็นลูกรักเข้าจังๆ แล้ว กลิ่นหอมหวานไม่เลี่ยน หวานละมุน กลิ่นคาราเมล กลิ่นวานิลลาอบอุ่น ไม่มีการกลิ่นขนมมากเกินไป (เราไม่ชอบกลิ่นขนมจัดเกินไปนะคะ) บอกเลย หอมมากกกกกก!!

ข้อเสีย : นางไม่ติดทน 🥺

เฉย ๆ ค่ะ ชอบตอน finish นะคะ แต่มันวอกเกินไป ไม่ถูกใจเราเลยค่ะ ตอนแรกจะเลือกเบอร์ 30 แต่ BA แนะนำเบอร์ 25 อืมม

เป็นรองพื้นที่ใช้ง่ายมากด้วยใช้มือเกลี่ย ! 5555 ใช้ในวันที่สบาย ๆ พอเซทตัวหน้าวอกนิดนึง เซ็ทแป้งด้วยแป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น แค่นี้ก็สวยแล้ว ไม่ปกปิดนะคะ

เป็นโลชั่นน้ำมันเข้มข้น ต้องใช้กับสำลีที่มีคุณภาพดีแผ่นหนา กด 3 ปั๊ม เช็ดหน้าเบา ๆ หน้ำฉ่ำ ชุ่มชื่นดีมากกกกกกก ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ พอหนึบ ๆ กรุบกริบ ไม่แพ้ ไม่มีสิวขึ้นเลย ชอบมากกกก

เป็น Limited Edition นะคะ ของ Diptyque Le Grand Tour Collection

เปิดแรก รู้สึกกลิ่นเผ็ด ๆ ไม่รู้เป็นกลิ่นของชนิดใด สำหรับเราไม่ชอบกลิ่นนี้ อดทนประมาณ 15-30 นาที หลังจากนั้นกลิ่นจะซอฟท์ลง เป็นกลิ่นกุหลาบโดยแจมความหวานมาด้วย กลิ่นหอมมากกกก แต่ไม่ได้กลิ่นธูปกะบีทรูท ไม่รู้กลิ่นเป็นอย่างไรนะ 5555 ปิด้ายด้วยกลิ่นหญ้าแฝกที่หอมละมุน ไม่เหม็นเขียว หอมน่ารักนะคะ

ส่วนตัวรู้สึกว่ากลิ่นนี้ เหมือนกลิ่นตามวัดญี่ปุ่นเลยค่ะ

ส่วนตัวชอบกลิ่น White Musk ซึ่งชอบกลิ่นโน๊ตนำ คือ Powdery อยู่แล้ว แต่ขวดนี้ 1957 คือหลงมากกกกกก กลิ่นแป้งดุจผิวเด็ก หอมมากกกกกกกก เป็นลูกรักเลยค่ะ

กลิ่น Floral นำ กลิ่นหอมละมุน ๆ เบา ๆ ไม่ฉุน ให้ความรู้สึกเป็นเด็กสาวสดใส และเป็นเด็กดี กลิ่นเป็นมิตรดีต่อเราและคนรอบข้างด้วยค่ะ กลิ่นดีมากเลย แต่เป็น EDT ไม่ค่อยติดทนค่ะ

เป็น Limited-Edition Cologne Intense มีจำหน่ายเป็นบางช่วง ถ้าจะสนใจจริง ๆ ต้องคอยติดตาม Update จากเพจ Jo Malone TH เสมอ จะได้ไม่พลาด

ส่วนกลิ่นเปิดแรก ได้กลิ่นแป้งจากดอกไม้ฟรุ้งมากเลยค่ะ กลิ่นสะอาดๆ พอฉีดลงผิว ดมแล้วรู้สึกแบบหอมผิวสะอาดๆ น่ะ เหมือนกลิ่นจากสบู่ก้อน โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นกลิ่นที่สุภาพเรียบร้อย ผู้ชายก็ใช้ได้ ไม่กลิ่นแป้งเด็กค่ะ กลิ่นไม่มีอะไรซับซ้อน เรียบง่าย ไม่ควรฉีดเยอะ มันหอมดอกไม้มากไป เดี๋ยวปวดจมูกและเวียนหัวค่ะ

สำหรับกลิ่นนี้ เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นแป้งจากดอกไอริสและไวท์มัสก์จริง ๆ จะบอกว่าหอมก็หอมค่ะ

ใช้จนซื้อซ้ำขวดที่ 2 แล้วววว เป็นอะไรไม่รู้ มันหอมมากกกก หวานสดชื่น ชอบกลิ่นตอนท้ายมากกกกกกกก พระเจ้าจอร์จ ! ใช้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ หยิบ My Burberry Blush ฉีดบ่อยกว่า Chance Eau Tendre แม้ซื้อนาง Chance มาก่อน 5555

รองพื้น บีเอเลือกเฉดสี warm beige ให้ฉัน
และแล้วกลับบ้านไปลองทันที พอลงผิว ตกใจ ทำไมหน้าวอกลอย
ทิ้งไว้สักครู่ 10 วิ เซตตัวขึ้น ลงแป้งเซตรองพื้น
โอ้โห พระเจ้า มหัศจรรย์ของรองพื้นบอบบี้บราวน์ !
ส่องกระจกอีกที เหมือนไม่ได้ทารองพื้นเลย 5555
เหลือเชื่อ ตามสมคำล่ำลือกันจริง ๆ