daisy

REVIEW

ลิปสติกในรูปแบบดินสอ เนื้อแมท ตัวเนื้อลิปเองจึงค่อนข้างแห้ง ควรบำรุงริมฝีปากก่อนทาเพื่อป้องกันตกร่องหรือแห้งเป็นขุย กลบสีปากได้ค่อนข้างมิดโดยไม่ต้องใช้เยอะมาก ติดทนพอสมควร พกง่าย ใช้ง่าย บางคนอาจจะไ่ม่ชอบที่ packaging เป็นแบบดินสอ เพราะว่า้ต้องคอยเหลา แต่ส่วนตัวชอบดินสอแบบที่ต้องเหลามากกว่าแบบออโต้ เพราะรู้สึกแบบเหลาจะได้ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์มากกว่า (งกเนอะ) ถ้าหากใครกลัวว่าเวลาเหลาแล้วจะเปลือง แนะนำว่าให้ลองหากบเหลาที่มีใบมีดเอียงน้อยๆ ดู เพราะเหลาแล้วจะไม่กินเนื้อลิปมาก ประหยัดๆ

ตอนนี้ที่มีอยู่ในกรุน้อยๆ คือสี Belle de Jour สีเดียว เป็นสี sheer beige นู้ดๆ เนื้อๆ เนื้อค่อนข้างบาง แต่ว่ากลบสีปากได้ค่อนข้างมิด ตั้งใจซื้อสีนี้มาด้วยว่าจะเอามาใช้เป็นทั้งลิปสติกและลิปคอนซีลเลอร์ แล้วยังสามารถใช้เบรกสีลิปอื่นๆ ให้ดูอ่อนและนุ่มนวลลงได้ด้วย พกติดกระเป๋าให้เป็นประจำ เป็น item เอนกประสงค์ แ่ต่ถ้าหมดหรือทำหายก็คงคิดหนักว่าจะซื้อใหม่ดีไหม เพราะใช้ดีก็จริง แต่ราคาแท่งละ 950 บาท นี่น่าจะหาตัวอื่นที่ใช้ดีพอๆ กันแต่ราคาถูกกว่ามาใช้แทนกันได้
12 years ago
เป็นกลอสหลอดเล็กน่ารักกว่าปกติ พกพาสะดวก กลิ่นมิ้นท์(ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบ) เนื้อกลอสเหนียวหนืดใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ควรใช้วันที่ลมพัดโกรกเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนที่ผมยาว T_T แต่ว่าเพราะว่าความเหนียวนี่กระมั้งที่ทำให้เนื้อติดทนพอสมควร ให้ความแวววาวใช้ได้ สีค่อนข้างอ่อนใส ไม่สามารถกลบสีปากได้ อาจจะเหมาะกับการแต่งหน้าลุคใสๆ เป็นธรรมชาติหรือทาทับลิปสติก

สีที่มีในครอบครองได้แก่ Baby Pink และ Champagne 2 สีนี้เป็นกลอสใสผสมชิมเมอร์โทนสีชมพูและสีทองตามลำดับ วิ้งใช้ได้ เหมาะจะให้ทาทับกับลิปสติกมากกว่าทาเดียวๆ อีก 2 สีคือ Burnt Sugar และ Rosy สำหรับ Burnt Sugar นี่ก็ตามชื่อสีเลย เป็นสีออกน้ำตาลไหม้ๆ ผสมชิมเมอร์สีทองเนื้อละเอียด ทาแล้วจะเห็นแค่ความแวววาว แทบไม่ให้ชิมเมอร์ถ้าไม่ดูใกล้ๆ เนื้อกลอสยังคงใสแต่ว่าให้สีเข้มที่สุดในบรรดากลอสทั้ง 4 ทาเดียวๆ ก็ได้ หรือจะให้ทาทับลิปสติกโดยเฉพาะสีนู้ด - โทนน้ำตาลก็ดี ส่วนสีสุดท้าย Rosy ก็ตามชื่อสีอีกเหมือนกัน เป็นสีชมพูกุหลาบใสๆ สวยงาม เป็นสีเดียวที่ไม่ผสมชิมเมอร์ ทาเดี่ยวๆ ก็สวยใส จะใช้ทาทับก็สวยดี

สรุปโดยรวมคือ ชอบค่ะ น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบกลอสใสๆ และไม่แคร์อะไรกับความเหนียวหนืดค่ะ
13 years ago
ก่อนอื่นเลย ขอกรี๊ด packaging ที่งามเลิศศศศ....น่ารัก เอาจริงๆ ก็ซื้อเพราะ package และความเป็น limited edition นี่แหละ แต่ว่าของเขาก็ใช้ดีอยู่ ชอบกลิ่นลิปของ mac มันหอมกลิ่นวนิลาอ่อนๆ ที่ปลื้มเป็นการส่วนตัว ให้เม็ดสีที่ค่อนข้างชัด ทว่าบางเบา เืนื่องจากเป็น tinted lipglass จึงอาจจะกลบสีปากได้ไม่มิดสำหรับสาวๆ ที่มีปากสีเข้ม (เช่นข้าพเจ้า เป็นต้น) ติดทนพอสมควร ให้ความแวววาวใช้ได้ มีสี Perennial High Style ที่ออกสีโอลด์โรส ส้มอมชมพู ไม่มี shimmer ในครอบครอง ส่วนตัวชอบใช้ทาทับหรือแต้มตรงกลางริมฝีปากเพิ่มความอิ่มเจ่อหลังทา NYX สี Indian Pink ที่ออกชมพูอมส้มเหมือนกัน งามเงิบเป็นที่สุดค่ะ >_<
13 years ago
ตอนแรกลังเลอยู่นานกว่าจะซื้อมาลองใช้ เพราะว่าได้ยินเสียงร่ำลือกันหนาหูว่ากลิ่นแรงมาก เคยลองดมของเพื่อนดูก็รู้สึกว่าที่เขาพูดกันมานั้นไม่เกินจริงเลย ถ้าเอามาใช้คงรู้สึกเหมือนเอาซันไลท์มาทาปาก แต่ก็อยากลองประกอบกับราคาไม่แพง ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ก็คงไม่ผิดหวังมากนัก

พอได้ลองแล้วมันก็ไม่ร้ายแรงอย่างที่คิดนะคะ กลิ่นซันไลท์ที่ว่าแรงนั้น ปาดๆ ที่ปากไปแป๊บๆ ก็หายไปแล้ว เนื้อลิปค่อนข้างลื่น ไม่เหนียวหนืด ติดไม่ค่อยทน แต่ว่ารับได้ ซื้อมาลองแค่เพียงสีเดียวคือ สี Strawberry เป็น gloss เนื้อ sheer สี ชมพูใส มี shimmer สีเงิน เกล็ดค่อนข้างละเอียด แวววาวสวยงามดี ทาแล้วได้ look สวยใสกันไป

สรุปโดยรวมแล้ว ค่อนข้างชอบค่ะ อาจจะชอบ NYX รุ่น Mega Shine มากกว่า แต่ว่า Round Lip gloss นี่ก็ไม่เลวร้าย แถมถูกด้วย ซื้อมาลองใช้ก็ไม่เสียหลาย
13 years ago
เป็น Lipstick ที่ชอบมาก เฉดสีก็มีให้เลือกหลากหลายมากๆ ละลานตากันไปเลยเวลาจะเลือกซื้อแต่ละที เม็ดสีเข้มกลบสีปากได้ค่อนข้างมิด ติดค่อนข้างทน เนื้อลิปไ่ม่ค่อยจะชุ่มชื่นอะไรมากนัก ฉะนั้นก่อนทามักจะต้องโบกลิปบาล์มบำรุงเอาไว้ก่อนเสมอ แต่ว่าเรื่องนี้รับได้ กลิ่นไม่หอมไม่เหม็น(ศรีทนได้อีกตามเคย) จะทาง่าย ทายาก หรือว่าเป็นคราบไหม อันนี้ส่วนตัวคิดว่ามันขึ้นอยู่กับสีและเนื้อลิปด้วย ถ้าสีค่อนข้างอ่อนก็มักจะทาแล้วเป็นคราบ ส่วนสีไหนที่ผสม shimmer เยอะๆ เนื้อก็จะแห้งกว่าพวกที่เป็น creamy เป็นต้น

ด้วยความที่ สีมันเยอะจัด เลยเอามาตัดใส่ Palette ไว้เพื่อสะดวกต่อการพกพา เนื่องด้วยราคาไม่แพงมาก ก็เลยเอามาตัดได้โดยไม่รู้สึกเสียดายอะไรมากมาย ซึ่งเมื่ออยู่ใน Palette แล้วมันก็ทำให้ผสมสีได้ง่ายขึ้น ก็เอาสีโน้น มาผสมสีนี้ เกิดเป็นสีใหม่ที่สวยงามและอาจจะไม่สามารถผสมให้ออกมาได้เหมือนเดิมอีกเป็นครั้งที่2 แต่ก็สนุกสนานกันไป

น่าเสียดายที่มันหาซื้อยากไปนิด สั่งจากทางเน็ตก็ลองสีไม่ได้ แต่สรุปโดยรวมแล้ว ถือเป็น lipstick ที่ชอบมากๆ เพราะว่าเ็ป็นของดีราคาถูก ปัจจุบันมีเก็บไว้ในครอบครองอยู่เกือบ 30 สี คิดว่าในอนาคตคงจะซื้ออีกแน่นอน แต่ปัจจุบันพอก่อน -_-"
13 years ago
Packaging ก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิม แต่ว่าออกแบบมาเหมือน tint เป๊ะๆ เลยไม่ตื่นเต้นแล้ว เนื้อผลิตภัณฑ์ทาแล้วลื่นดีแต่ทว่าก็ยังมีความหนืดนิดๆ ไม่ได้เหนียวมากน่ารำคาญเหมือนกลอสบางตัว ทาแล้วไม่หนักปากมาก ติดไม่ค่อยทน สีก็ไม่ค่อยออก ให้ความสวยใสบ๊องแบ๊วตามสไตล์เกาหลีมากกว่าเน้นที่ความเข้มของเม็ดสี กลิ่นหอมเหมือนขนม Pockey Strawberry โดยรวมแล้วน่าจะเหมาะกับสาวน้อยวัยใส แต่ถึงจะเลยวัยนั้นมาแล้วก็อย่าได้แคร์หากอยากจะใช้ก็ซื้อโลด อิอิ

ที่มีใครครอบครอง ณ ขณะนี้มีเพียงสีเดียว คือ No.12 Pink Sherbet (ไม่รวมสีอื่นที่ไปจิ๊กของเพื่อนมาลอง) สีนี้ให้แต่ shimmer วิ้งๆ อย่างเดียว แทบไม่ออกสีใดๆ ให้เห็นด้วยตาเปล่าเลยเมื่อทากับปาก ตัว shimmer มีผสมกันมาหลายสี ที่พยายามส่องเล็งอย่างตั้งใจก็เห็นมีสีชมพู, ม่วง, เงินและทอง สวยงาม เหมาะจะใช้ทาทับลิปสีอื่นมากกว่าจะใช้เดี่ยวๆ เพียงตัวเดียวค่ะ :)
13 years ago
แรกพบสบตาก็ประทับใจกับ Packaging อีกแล้วสำหรับแบรนด์นี้ ทำออกมาดูน่ารักน่าใช้จริงๆ ปลาย applicator เป็นฟองน้ำคล้ายพวก lip gloss ทำให้ใช้ง่าย หยิบขึ้นมาปาดๆ ได้เลยไม่ต้องกลัวหกเลอะ ติดทนนานตามประสา tint ยิ่งใช้ทาแก้มยิ่งติดทน สีสวย ชัด แจ่ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ พอให้เคลิบเคลิมเวลาหยิบมาทา

สำหรับสีมีให้เลือกใช้ทั้งหมด 3 สี มีครอบครองเก็บไว้ในกรุทั้ง 3 หน่อ

No.1 Berry Red : ให้สีชมพูสดอมแดง สีนี้น่าจะฮิตมาก เห็นเพื่อนที่ทำงานใช้กันแทบทุกคน แต่ว่าอยากจะบอกว่าสีใกล้เคียงน้ำยาอุทัยมากๆ ติดทนนานเหมือนกันอีกด้วย ถ้าไม่คิดอะไรมากใช้น้ำยาอุทัยแทนก็ได้ ราคาไม่กี่สิบบาทเอง ถูกกว่าเยอะ

No.2 Real Red : สีแดง ส่วนตัวแล้วคิดว่าสีนี้เหมาะกับตัวเองมากกว่า Berry Red ที่เป็นสีชมพูปรี๊ด เพราะว่าเป็นคนผิวเข้มอมน้ำตาล สีนี้ออกอมส้มหน่อยๆ เลยดูเข้ากับผิวมากกว่า(มั้ง)

No.3 Orange Red : สีส้ม ตัวนี้ออกส้มมากกว่า Real Red แต่ทว่าก็ยังอมสีแดงอยู่ดี ไม่ได้ส้มปรี๊ดล้วนๆ ชอบใช้ทาวันที่แต่งหน้าโทนส้มหรือน้ำตาล

สรุปโดยรวมแล้วเป็น tint ตัวหนึ่งที่ชอบมากตัวหนึ่ง ราคาไม่แพงเลยด้วยเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้ (ในกรณีที่ฝากเพื่อนซื้อจากเกาหลีจะถูกโฮก เลยทีเดียวเชียว)
13 years ago
เป็นเนื้อกลอสใส ชิมเมอร์เนื้อละเอียด ให้ความแวววาวสูงมากกกกกกกกก ความเหนียวหนึบก็สูงมากเช่นเดียวกัน ทาแล้วหนักปากเล็กน้อย แต่ว่าก็คงเป็นเพราะว่าความหนึบนี่แหละที่ทำให้ติดทนนานกว่าลิปกลอสทั่วไป ส่วนเรื่องกลิ่นนั้นส่วนตัวไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ไม่ได้หอม แต่ว่าก็ไม่เหม็น แทบไม่ได้กลิ่นด้วยซ้ำไป

ขณะนี้มี Kissy Fit อยู่ในครอบครองเพียงหนึ่งเดียว เป็นสีชมพูสดอมม่วงเล็กน้อยให้อารมณ์ fuchsia หน่อยๆ มีชิมเมอร์สีชมพู-เงิน สีสด ชัด เข้ม ใช้ทาเดี่ยวๆ ก็สวย หรือจะใช้ทาทับก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าสีปากเดิมเข้มอยู่แล้วหรือเปล่าทำให้ทาออกมาแล้วมันออกอมม่วงมากกว่าที่เห็นในหลอด แต่โดยรวมแล้วก็ชอบอยู่ดีค่ะ
13 years ago
มันก็คือ "ลิปเปลี่ยนสี" นั้นเอง เคี๊ยกๆ ด้วยความอยากลอง อยากรู้ ก็เลย bid มาลองเล่นดู บีบออกมาจะเป็นเนื้อเจลใสๆ ลื่นๆ ไม่หนืดเหนียว กลิ่นมิ้นท์ๆ หน่อย เมื่อทากับปากแล้วจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูใสๆ ซึ่งทาแต่ละครั้งสีอาจจะออกมาเหมือนกัน เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เพราะว่ามันจะเปลี่ยนไปตามคุณสมบัติทางเคมีของร่างกายเรา (เขาว่าอย่างนั้นอ่ะนะ) เรื่องติดทนไหมนั้น สำหรับความแวววาวไม่นานนักมันก็จะค่อยๆ จางหายไป แต่ว่าสีชมพูเรื่อๆ นั้นยังคงอยู่ไปอีกซักพัก ส่วนเรื่อง plumper นั้นก็ไม่เห็นปากจะอวบอิ่มมากขึ้นไม่เท่าไรเลย ทาแล้วแค่มีอาการเย็นๆ ปาก ไม่ถึงกับยุบยิบๆ เหมือน lip plumper ตัวอื่นที่เคยลอง

สรุปโดยรวมแล้วก็ชอบนะคะ เหมาะเอาไว้ทาเวลาต้องการแต่งหน้าแบบใสๆ แบบเป็นธรรมชาติ (ซึ่งต้องใช้ความพยามยามอย่างมาก) แต่เมื่อเปรียบเทียบ ปริมาณ คุณภาพและราคาแล้ว คิดว่าแพงเกินไปมากค่ะ ยังมีตัวอื่นที่คุณสมบัติสามารถใช้ทดแทนกันได้ในราคาที่ไม่มหาโหดขนาดนี้
13 years ago